วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คุณไสย์ ฝรั่ง มัดใจผัว ( Love spells )

ผัวรักผัวหลง

ถ้า เป็นของไทยพิธีการในการมัดใจผัวก็คงเคยเห็นผ่านภาพยนตร์ กันมาบ้างแล้วเช่น น้ำมันพรายผีท้องกลม ฝังตุ๊กตาคู่ หงษ์ร่อนมังกรรำ เป็นต้น มาลองดู คุณไสย์ของฝรั่งกันบ้างเขาทำกันอย่างไร

รายละเอียกเกี่ยวกับ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำคุณไสย์ มัดใจผัว

คุณ ไสย์ดังกล่าวรู้จักกันในลัทธิ Wicca ซึ่งเป็นพวกแม่มด พ่อมด ยุคใหม่ ที่เริ่มก่อตั้งกลุ่มในอังกฤษในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 และรุ่งเรืองสุดขีดในยุคของศาสดา Gerala Gardner เมื่อช่วงปี 1950 ถึง 1960
ส่วนวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้มีดังนี้

  1. กระดาษ 1 แผ่น
  2. ซองจดหมาย 1 ซอง
  3. ปากาหมึกสีแดง
  4. น้ำหอมของผู้ทำคุณไสย์
  5. ลิปสติกของผู้ทำคุณไสย์
  6. กลีบดอกไม้ที่มีสีแดง หรือ ชมพู
ขั้นตอนการทำคุณไสย์

  • การทำคุณไสย์จะเข้มขลังที่สุดเมื่อทำพิธีในวันศุกร์ ที่พระจันทร์เต็มดวง
  • เขียนสิ่งที่คุณคาดหวังที่จะได้จากคนที่คุณรักด้วยปากกาสีแดง บนกระดาษที่เตรียมไว้
  • ต่อมาพรมน้ำหอมของคุณ ที่เตรียมไว้บนกระดาษที่เขียน
  • พับกระดาษแผ่นนั้นลงซองจดหมาย
  • นำ กลีบดอกไม้ถือไว้ในมือขวา ตั้งจิตอธิฐานถึงสิ่งที่ต้องการ บีบกลีบดอกไม้่เบาๆอย่างอ่อนโยน แล้วเก็บสิ่งที่ที่อธิฐานนั้นตรึงมันไว้ในหัวใจ พร้อมกับ
  • หย่อนกลีบดอกไม้ลงในซองจดหมาย แล้วปิดผนึกซองไว้
  • ทาลิปสติกที่ริมฝีปาก แล้ว จุมพิต ประทับลงที่บริเวณปากซองเพื่อเป็นการผนึกซองอีกชั้นหนึ่ง
  • ขั้นตอนสุดท้ายนำซองจดหมายนั้นไป.................ณ..................... เป็นอันจบพิธีกรรม
  • และอย่าได้เปิดซองอีกมิเช่นนั้น คุณไสย์จะเสื่อม
ถ้ารักใคร ชอบใคร ก็ชนะใจเขาด้วยความดีของคุณ นั้นดีที่สุด
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.paranormalhaze.com/
http://en.wikipedia.org/wiki/Wicca


รู ราคาแพง

รูนี้ล้ำค่านัก

หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า ผนังอิฐเก่านี้จะมีค่า กว่าล้านบาท มันไม่ใช่งานศิลปะ หรือ ประติมากรรม ของ ศิลปินระดับโลกคนใดทั้งสิ้น

รายละเอียดเกี่ยวกับ รู


  • รูนี้ใช้เวลาในการ สรรค์สร้าง เพียง 3 ชั่วโมงกว่าๆ
  • โดยใช้เครื่องมือเพียงแค่ ค้อนปอนด์ และ ชะแลง เท่านั้น
  • รู นี้มีมูลค่าถึง 30,000 ปอนด์ (1.5ล้านบาท) เนื่องจากมันเป็นผลงานที่สร้างไว้ข้างร้านอัญมณีที่ชื่อว่า JW Rose jewellers ในเมือง Nottingham ประเทศอังกฤษ
  • หลายคนคงอยากจะสร้าง สรรค์งานเช่นนี้บ้าง เนื่องจากใช้เวลาไม่นาน แต่ ได้ผลตอบแทนสูงมากเลย แต่ ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าดีกว่าเนื่องจากมันเป็นผลงานของ หัวขโมย ที่ทุบผนังร้านอัญมณี เข้าไปขโมยของไปกว่า 300 รายการ
  • โดย หัวขโมย เริ่มลงมือทุบผนังอิฐด้วยค้อนปอนด์ แล้วขัดด้วยชะแลง ตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 ของวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2553 จนถึงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า จนได้ช่องพอมุดผ่านเข้าไปในร้านได้ แล้วใช้เวลา Shopping อีก 4 นาที ในการเลือกหยิบ เครื่องประดับ สร้อย แหวน กำไล ไปกว่า 300 รายการ ลงใส่ถุงของทางร้านอัญมณี แล้วหนีลอยนวลไป ตามระเบียบ
  • โดยเจ้าของตั้งรางวัลนำจับไว้ถึง 5 แสนบาท
ภาพด้านหน้าร้านที่ติดตั้งประตูเหล็กแน่นหนา แต่มีจุดอับสายตาด้านข้างร้าน

รูป รู ถ่ายจากภายในร้าน และ แผงสร้อยคอบางส่วนที่คนร้าย เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

ข้อมูลอ้างอิง รู ราคาแพง
http://www.dailymail.co.uk/news/article-1326900/The-30-000-hole-wall-Thief-spends-hours-smashing-brick-wall-daring-jewellery-heist.html


แค่ โรคกรดไหลย้อน นำสู่ ไม่กินไม่ดื่ม 4 ปี (NO eaten anything in FOUR years)

กรดไหลย้อน

หลาย คนอาจจะพึ่งรู้จักโรคกรดไหลย้อน นี้กันมาเมื่อเร็วๆนี้เอง โรคกรดไหลย้อน ภาวะที่กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหารทำให้หลอดอาหารอับเสบ ทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก แต่ เชื่อหรือไม่ว่า โรคนี้จะทำให้หนูน้อยน่่ารักในภาย ไม่ยอมกินยอมดื่นอาหารทางปากมากว่า 4 ล่วงมาแล้ว

รายละเอียด

  • หนู น้อย เดเนียล เฮรรีสัน(Daniel Harrison) หน้าตาน่ารักคนนี้ เกิดอการกลัวที่จะกินอาหาร และไม่ยอมกินอาหาร ทุกอย่างผ่านทางปากอีกเลยมากว่า 4 ปีแล้ว
  • สาเหตุที่ทำให้หนูน้อยไม่ยอมกินอาหารก็เกิดขึ้นจาก หนูน้อยป่วยเป็นโรคกรดไหลย้อน(Acid reflux) ตั้งแต่เป็นทารก แต่เรื่องราวมันก็ไม่น่าลุกลามขนาด
  • ผล ที่ทำให้ หนูน้อยไม่ยอมกิน ยอมดื่ม หนักขนาดนี้ก็เนื่องจาก หนูน้อยยังป่วยเป็นออทิสติก(Autism)ร่วมกับ อาการกดไหลย้อน ทำให้เกิดอาการจำฝังจิต ฝังใจ ว่าการกินอาหารจะทำให้เขาเจ็บปวด หนูน้อยจึงหยุดกินอาหารในที่สุด
  • ปัจจุบันหนูน้อยต้องรับ อาหารเหลว ผ่านหน้าท้องเข้าสู่กระเพาะโดยตรงแทนการกินทางปาก
  • หมอที่รักษา หนูน้อย บอกว่าไม่มีทางรักษาเขาเนื่องจาก อาการป่วยของเขาเกิดจากจิตใจ ของ เขาเองมันขึ้นอยู่ว่าเขาจะยอมกินอาหารทางปากเองเมื่อไรเท่านั้น


ข้อมูลอ้างอิง
http://www.dailymail.co.uk/health/article-1326144/Four-year-old-boy-scared-food-eaten.html


เมื่อหมอ ประจำคณะสำรวจขั้วโลกไส้ติ่งอับเสบ อะไรจะเกิดขึ้น ( Self surgery )

เมื่อหมอ คนเดียวประจำคณะสำรวจขั้วโลกไส้ติ่งอับเสบ อะไรจะเกิดขึ้น
ผ่าตัดตัวเอง

When เมื่อหมอ คนเดียวประจำคณะสำรวจแอนตาร์กติก เกิดไส้ติ่งอับเสบ ไม่มีหมอ ไม่มีเครื่องบิน ไม่มีความช่วยเหลืออื่นใดจากโลกภายนอกที่ทันช่วงที หากปล่อยไว้ไส้ติ่งเกิดแตกขึ้นมา คุณหมอจะติดเชื้อในช่องท้องอย่างรุนแรง โลหิตเป็นพิษ และเสียชีวิตในที่สุด

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ทางการผ่าตัดเกิดขึ้นเมื่อ

  • ใน วันที่ 29 เมษายน 1961 นายแพทย์ Leonid Rogozov ชาวโซเวียต อายุ 27 ปี แพทย์ประจำคณะสำรวจแอนตาร์กติก ที่ 6 เกิดเจ็บท้องเฉียบพลัน บริเวณรอบสะดือ ก่อนจะย้ายมาปวดท้องบริเวณท้องส่วนล่างด้านขวา และมีไข้สูง
  • นายแพทย์ Leonid Rogozov รู้ได้ในทันทีว่านั้นคืออาการของไส้ติ่งอับเสบ(Appendicitis)
  • แต่คุณหมออยู่ท่ามกลาง ทวีปที่โดดเดี่ยว ห่างไกล และทุรกันดารที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ไม่มีแพทย์คนอื่น ไม่มีเครื่องบิน หรือพาหนะอื่นได้ที่จะส่งคุณหมอไปรักษาอย่างทันท่วงที
  • ทางรอดเพียงของคุณหมอคือ การผ่าตัดตัวเอง ( Self surgery )
  • ใน คืนวันที่ 30 เมษายน 1961 คุณหมอได้ลงมือผ่าตัดไส้ติ่งตัวเอง โดยใช้ฉีดยาชาเฉพาะที่ Novocaine เปิดช่องท้องเป็นแผลยาว 12 เซ็นติเมตร
  • ทำการผ่าตัดโดยใช้มือสัมผัส และมองผ่ากระจก ที่ถือโดยบผู้ช่วยจำเป็น
  • ผู้ ช่วยจำเป็น คือ วิศวกรเครื่องกล และนักอุตุนิยมวิทยา ที่ทำหน้าที่เป็นลูกมือช่วยผ่าตัด หยิบของ ถือกระจกให้คุณหมอมอง เพื่อผ่าตัดผ่านกระจก
  • การผ่าตัดใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 45 นาที
  • คุณหมอใช้เวลาพักพื้นอยู่ 5 วันอาการไข้ และอุณหภูมิร่างกายจึงกลับสู่ภาวะปกติ และพักต่ออีก 2 วันแผลผ่าตัดจึงทุเลา


ข้อมูลอ้างอิง เมื่อหมอ ประจำคณะสำรวจไส้ติ่งอับเสบ อะไรจะเกิดขึ้น

  • http://englishrussia.com/?p=7297





การผ่าตัดแปลกๆ ย้ายมือมาฝากไว้ที่เท้า (hand grafted to her LEG)

การผ่าตัดประหลาด

จะ ไม่เรียกว่าประหลาดได้อย่างไร ในเมื่อการผ่าตัดนี้ได้นำมือมาติดไว้ที่เท้า คณะแพทย์ได้ทำการผ่าตัดประหลาดเช่นนี้เพื่ออะไร ไปดูกันครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดประหลาด เอามือมาติดไว้ที่เท้า
  • หนูน้อยที่ได้รับการผ่าตัดประหลาดนี้มีชื่อว่า Ming Li วัย 9 ขวบ ชาวจีน
  • เดิมหนูน้อยเป็นเด็กปกติธรรมดาๆ แต่เกิดอุบัติเหตุรถแทรคเตอร์(Tractor)ทับแขนซ้ายในระหว่างที่ เธอกำลังไปโรงเรียนเมื่อเดือนกรกฏาคม
  • เมื่อ หนูน้อยถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล แขนของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก และมือได้ขาดออกจากร่างกาย แต่มือนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
  • คณะแพทย์จากโรงพยาบาล Zhengzhou ในมณฑลเหอหนาน(Henan)ได้ตัดสินใจ ย้ายมือของเธอไปปลูกถ่ายไว้ที่ ขา ก่อนเป็นการชั่วคราว เพื่อรอให้แขนของเธอที่เสียหายอย่างหนักให้ฟื้นฟูก่อน เพราะถ้าไม่ย้ายมือไปปลูกถ่ายไว้ที่เท้าก่อน มือของเธอคงจะเน่าไปก่อนที่แขนจะฟื้นฟู เนื่องจากเส้นเลือดที่ถูกทำลาย ไม่สามารถส่งเลือดไปเลี้ยง มือ
  • เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือนเมื่อแขนของเธอทุเลาดีขึ้น คณะแพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดย้ายมือที่ไปปลูกถ่ายไว้ที่เท้า กลับ มายังแขนดังเดิม
  • ด็อกเตอร์ Hou Jianxi กล่าวว่า ขณะนี้มือของเธอเป็นสีชมพู นั้นแสดงถึงว่าความสำเร็จในการผ่าตัด เลือดจากแขนสามารถไหลเวียนมายังมือได้อย่างดี แต่ เธอจะต้องได้รับการผ่าตัดอีกมากกว่า 2 ครั้ง เพื่อให้เธอสามารถใช้แขนได้ดีใกล้เคียงก่อนเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด
  • คุณหมอยืนยันอย่างมันใจว่า เธอจะสามารถกลับมาใช้แขนและมือได้อีกครั้งถึงจะไม่สมบูรณ์ดังเดิม หลังจากการได้รับการทำกายภาพบำบัด
สภาพแขนของหนูน้อยหลังจากได้รับการผ่าตัดย้ายมือกับมาที่แขน


ข้อมูลอ้างอิง
http://www.dailymail.co.uk/health/article-1330947/Girl-9-hand-grafted-LEG-months-accident-heal-is-reattached.html


พลาสเตอร์ปิดแผล อัจฉริยะ (intelligent plasters)

สิ่งประดิษฐ์ สุดเจ๋ง

ใช้ พลาสเตอร์ปิดแผล ก็เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลสกปรก ติดเชื้อ แต่ หากไม่รักษาความสะอาด ไม่มีการเปลี่ยนพลาสเตอร์ปิดแผลอย่างสม่ำเสมอตามเวลาที่กำหนด พลาสเตอร์อาจจะเป็นแหล่งเชื้อโรคเสียเอง

รายละเอียดเกี่ยวกับ พลาสเตอร์ปิดแผล อัจฉริยะ

  • โดยปกติผิวหนังของร่มนุษย์จะมีค่า pH ต่ำกว่า 5 คือมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ
  • นักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์ พลาสเตอร์ปิดแผลอัจฉริยะ ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ เมื่อ แผลอยู่ในสภาพที่มีความเสียงในการจะติดเชื้อ
  • พลาสเตอร์ นี้จะเปลี่ยนสีจากสีเหลือง เป็น สีม่วง เมื่อ ค่า pH มีค่าอยู่ระหว่าง 6.5 ถึง 8.5 เป็นสภาวะที่มักจะเกิดการติดเชื้อขึ้นของบาดแผล
  • พลาสเตอร์ อัจฉริยะนี้ ประดิษฐ์โดย สถาบันวิจัย the Fraunhofer Research Institution for Modular Solid State Technologies ประเทศเยอรมัน
  • โดยหัวหน้างาน วิจัย ด็อกเตอร์ Sabine Trupp ได้กล่าวไว้ว่าทีมงานได้พัฒนาสีย้อมที่จะเกิดปฏิกริยาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ค่า pH แล้วทำการย้อมติดไว้ที่ พลาสเตอร์ปิดแผล
  • เมื่อแผลไม่เกิดการติดเชื้อก็จะหายเร็วขึ้น ไม่เกิดอาการแทรกซ้อน และไม่เกิดแผลเป็นรุนแรง
  • การทดสอบในเบื้องต้นผ่านไปได้อย่างดี
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.dailymail.co.uk/health/article-1330415/Intelligent-plasters-turn-purple-wound-healing-properly.html


เพราะรักจึงยอมเปลี่ยนแปลง ของ ปลาการ์ตูน ( Clown fish )

เพราะรัก จึงยอมแปลงเพศ

Clown fish ปลาการ์ตูน เราอาจจะนึกถึง ปลาดีโม่ ของ ดิสนี่ย์ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ความรักของพวกมันนั้นแปลกประหลาดยิ่งนัก

รายละเอียดเกี่ยวกับ ความรักของปลาการ์ตูน

  • ปลาการ์ตูนอยู่กันเป็นฝูง โดยใช้ดอกไม้ทะเลเป็นบ้าน และเครื่องป้องกันตัวจากสัตว์นักล่า เป็นสิ่งที่เรารู้ๆกันอยู่
  • ปลาการ์ตูน มีสีส้มสับขาว ก็ที่เรารู้ๆกันอยู่
  • แต่สิ่งที่แปลกของปลาการ์ตูนก็คือ เรื่องราวการครองคู่ของพวกมัน
  • โดยแรกเริ่มที่พวกมันฟักออกมาจากไข่ พวกมันยังอยู่ในช่วงไร้เพศ
  • เมื่อ พวกมันเข้าไปอาศัยอยู่ในดอกไม้ทะเล และมีการจัดตั้งเป็นฝูงจะเริ่มมีการลำดับชั้นภายในฝูง โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยตัวที่แข็งแรงที่สุดใหญ่ที่สุดจะพัฒนาไปเป็น ปลาการ์ตูนเพศเมียเพียงตัวเดียวในฝูง คือ มีรังไข่ (ตัวเมียคือตัวที่ใหญ่ที่สุด และสีสันไม่สดใส)
  • ส่วนปลาการ์ตูน ที่มีขนาดใหญ่รองลงอันดับที่ 2 จะพัฒนาเป็นเพศผู้สมบูรณ์ คือ มี สเปริ์ม
  • ส่วนปลาการ์ตูน ที่เหลือจะเป็นเพศผู้ไม่สมบูรณ์ คือ ไม่มีน้ำเชื้อ ผสมพันธุ์ไม่ได้ (ไร้น้ำยา)
  • แต่ สิ่งที่แปลกประหลาดนั้นยังไม่จบสิ้น หากฮาเร็มแห่งนี้ เกิดตัวเมียเจ๊ใหญ่ตายขึ้นมา ตัวผู้ขั้นสมบูรณ์ หรือ ตัวผู้ไร้น้ำยาที่ต่อสู้ชนะตัวผู้ขั้นสมบูรณ์ จะได้รับสิทธิ์ในการเปลี่ยนเพศเป็น ตัวเมีย ตัวใหม่ขึ้นครอบครอง ฮาเร็ม แห่งนี้ตัวใหม่
ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Clownfish


แมลงประหลาด มีหัวเป็น ถั่วลิสง (Peanut-Head bug )

แมลงประหลาด

จะ ไม่เป็นแมลงประหลาดได้อย่างไร ในเมื่อมันมีหัวเหมือนถั่วลิสง แล้วทำไมมันจึงต้องมีหัวที่มีรูปร่างประหลาดเช่นนี้ ทั้งที่มันดูเกะกะเสียมากกว่าในการดำเนินชีวิต ของ พวกมัน


รายละเอียดเกี่ยวกับ แมลงประหลาด

  • แมลงประหลาดนี้อยู่ในวงศ์(Family) Fulgoridae ในตระกูล(Homoptera)
  • แมลงในวงศ์ Fulgoridae จะมีลักษณะเด่นคือส่วนหน้าของหัว ที่มีขนาดใหญ่คล้าย ถั่วลิสง ซึ่งทำให้เป็นที่มาของชื่อพวกมัน
  • พวกมันมีขนาดเมื่อโตเต็มวัย ยาวประมาณ 8 เซ็นติเมตร
  • พวกมันไม่กัด มีปากเป็นหลอดเล็กไว้ดูน้ำเลี้ยงพืช ไม่มีอันตราย ไม่มีอาวุธที่จะปกป้องตัวเองเลย ทำให้หัวขนาดใหญ่ถ้าจึงเป็น อวัยวะสำหรับป้องกันตัวของพวกมัน โดยใช้ลวงเหล่านักล่า
  • เหล่านักวิทายาศาสตร์ คาดการณ์ว่าหัวรูปร่างประหลาดนี้ มีไว้เพื่อให้นักล่า เข้าใจผิดคิดว่าหัวขนาดใหญ่นี้คือ หัวกิ้งก่า หรือ หัวงู ทำให้นักล่ากินแมลงล่าถอยเมื่อพบพวกมัน
  • แต่ จักจั่นหัวถั่วลิง ลงยังมีรูปแบบการป้องกันตัวอื่นอีก เช่น บนด้านหลังปีกของพวกมันมีจุดวงกลมขนาดใหญ่สีแดงดำ ทำให้เหมือนดวงตาขนาดใหญ่ เมื่อพวกมันกางปีก ทำให้นักล่าที่จะลอบโจมตีทางด้านหลัง ต้องชะงักไปเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า กำลังถูกสัตว์ขนาดใหย่จ้องอยู่
  • แต่ ยังยังไม่หมด ถ้าการลวงทั้งหมดยังใช้ไม่ได้ผล พวกมันยังสามารถพ่นสเปย์ ที่มีกลิ่นที่เหม็นสุดทน เหมือน สกั้ง(Skunk) คงไม่มีใครอยากกินอะไรที่กลิ่นเหม็นสุดยอดเช่นนี้
  • ในบางพื้นที่ยังมีความเชื่อผิดๆว่า หัวขนาดใหญ่ของพวกมันสามารถเปล่งแสงได้ เหมือนโคมไฟในเวลากลางคืน

เมื่อ จักจั่นหัวถั่วลิสงกางปีก จะเหมือนมีดวงตาขนาดใหญ่กำลังจ้องมองอยู่

ข้อมูลอ้างอิง
http://ambergriscaye.com/photogallery/090806.html
http://picasaweb.google.com/lh/photo/yaKEUkbW1-VLiwFHeXInUA


ภาระกิจรัก ลับ ลวง พราง ของ น้องปลา

บทรักพิศดาร ลับ ลวง พราง ของ น้องปลา

ตาม กฎการคัดสรรของธรรมชาติ ผู้ที่แข็งแรง ผู้ที่ดีที่สุด นั้นย่อมจะได้รับโอกาสในการส่งถ่ายทอดพันธุ์กรรมที่ดีของมันก่อน ยิ่งในโลกของสัตว์ ผู้ที่แข็งแรง ย่อมได้เปรียบในการต่อสู้ และมีโอกาสจะได้ผสมพันธุ์ก่อน แต่ มันไม่แน่เสมอไป

รายละิเอียด ภาระกิจ ลับ ลวง พราง

  • ข้อยกเว้นนี้นั้นเกิด กับ มนุษย์ ผู้แข็งแรงไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรกเสมอไป มันมีตัวแปรเรื่อง รูปหน้าตา เงินทอง คารม มาเกี่ยวข้อง
  • แต่ สำหรับปลาบางชนิด ผู้แข็งแรงนั้นกับตกเป็นเหยื่อของผู้อ่อนแอ เนื่องจากการใช้ เล่ห์กล และการหลอกลวง ดังจะได้พบในปลา bluehead wrasse
  • เหล่าปลา Bluehed wrasse ตัวผู้จะมีทั้งแบบ ใหญ่ล่ำ และเตี้ยสั้น
  • พวกเตี้ยสั้น นั้นมีรูปร่าง สีสันเหมือนเพศเมีย
  • แน่นอนเมื่อ เพศผู้เตี้ยสั้น เหมือนเพศเมีย เหล่าตัวผู้ใหญ่ล่ำย่อมเข้าใจผิดว่าพวกมันเป็นเพศเมียบ้างเป็นธรรมดา
  • เหล่าเพศผู้ใหญ่ล่ำที่เข้าใจผิดจะเข้า ตุ๋ย เหล่าเพศผู้เตี้ยสั้น
  • แต่ ใช่ว่าพวกเพศผู้เตี้ยสั้นจะยอมให้ ตุ๋ย กันฟรีๆ ในระหว่างการถูกตุ๋ยอยู่นั้น เพศผู้เตี้ยสั้นจะ ถูกสอดแทรกน้ำเชื้อของพวกเตี้ยล่ำเข้าอวัยวะเพศของ เพศผู้ใหญ่ล่ำ
  • เมื่อเพศผู้ใหญ่ล่ำ ไปผสมพันธุ์ กับ เพศเมียตัวจริง เชื้อของพวกเตี้ยสั้นก็จะมีโอกาสได้ผสมกับไข่ของเพศเมียด้วยเช่นกัน
  • โดยพฤติกรรมนี้มีชื่อเรียกว่า ยุทธการลับลวงพรางแอ๊บแมน (sneaky primary males)
  • โดยในภาพจั่วหัวตัวผู้พวกใหญ่ล่ำคือตัวที่มีสีฟ้าสด ส่วนตัวเมีย และตัวผู้เล็กสั้น จะเป็นพวกสีเหลืองล้วน
  • ช่างเป็นอุบายที่เอาตัวเข้าแลกจริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.cosmosmagazine.com/news/643/crowds-cause-sex-change


งูประหลาด จาก ญี่ปุ่น ทซึฉิโนะโกะ (Tsuchinoko)

งูประหลาด

Tsuchinoko ทซึฉิโนะโกะ เป็น งูประหลาด สัตว์ประหลาด ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดดังภาพ คือ มีลำตัวป่องกลางขนาดใหญ่ไม่สมส่วนกับส่วนหัว และส่วนหาง มีการกล่าวอ้างถึงการพบเห็นพวกมันที่ประเทศ ญี่ปุ่น บ่อยครั้ง

รายละเอียดเกี่ยวกับ ทซึฉิโนะโกะ

  • ทซึฉิโนะโกะ เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นคือ ツチノコ ซึ่งแปลว่า Hammerspawn
  • ทซึฉิโนะโกะ ถูกกล่าวอ้างว่ามีการพบเห็นได้ตามทางตะวันตก ของ ญี่ปุ่น ใน เขต คันไซ(Kansai) และ ชิโคกุ(Shikoku)
  • ทซึฉิโนะโกะ มีรูปร่างแปลกประหลาด คือ มีรูปร่างคล้ายจะเป็น งู แต่ มีหัว และหางเล็กมากเมื่อเทียบกับ ลำตัวส่วนกลาง ลำตัวยาว 30 - 60 เซ็นติเมตร มีเขี้ยว และเป็นสัตว์มีพิษ
  • บ้างกล่าวอ้างว่าพวกมันสามารถกระโดดได้ไกลเป็นระยะทาง กว่า เมตร
  • บ้างก็กล่าวอ้างว่า พวกมันสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ แถมชอบพูดโกหกอีกต่างหาก และพวกมันยังหลงในรสชาติของสุราเมไร เป็นที่สุด
  • บ้างก็กล่าวอ้างว่า มันชอบงับหางตัวเองแล้ว ม้วนตัวเป็นวงกลม ทำให้บางครั้งมันถูกเรียกว่า งูห่วง(Hoop snake)
  • ทซึ ฉิโนะโกะ นั้นกับมีรูปร่าง ละม้ายคล้าย กับ กิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน (Blue-tongued skinks) ที่มีรูปร่างป้อมอ้วน ขาสั้นเล็ก พบได้ในทวีป ออสเตรเลีย โดยลิ้นสีน้ำเงินขนาดใหญ่ของพวกมันมีประโยชน์สำหรับ ขู่ สัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายพวกมัน
  • แต่ กิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน ไม่ใช่สัตว์ที่มีในญี่ปุ่น ทซึฉิโนะโกะ อาจจะเป็นเพียง งูที่กินเหยื่อขนาดใหญ่เข้าไปทำให้ลำตัวป่องตรงกลาง

ภาพกิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน


นัก วิทยาศาสตร์ที่ปรึกษา ของ NBS กล่าวอ้างว่าบางที ทซึฉิโนะโกะ อาจจะเป็นเพียง หนอนแก้ว ของ ผีเสื้อกลางคืน ที่มีลวดลาย คล้ายงู ที่มีไว้ป้องกันตัวจากนักล่า ดังในภาพ อย่างเช่น หนอนแก้วหัวงู
 
 
ข้อมูลอ้างอิง
อ้างอิงในส่วน งูประหลาด ทซึฉิโนะโกะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Tsuchinoko

อ้างอิงในส่วน กิ้งก่าลิ้นสีน้ำเงิน
http://en.wikipedia.org/wiki/Blue-tongued_skink


ไม่ง้อผู้ชาย ไม่ง้อผสมเทียม ไม่ต้องมีเซ็กส์ ก็มีลูกเองก็ได้ (Whiptail Lizard)

โอ๊ย! อะไรมันจะหยิ่งขนาดนี้

วันนี้มีเรื่องการขยายพันธุ์ ของสัตว์ที่แปลกเป็นที่สุด สำหรับ สัตว์มีกระดูกสันหลัง คือ พวกมันขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ

รายละเอียดเกี่ยวกับ จิ้งแหลนหางแส้

  • จิ้งแหลนหางแส้(Whiptail Lizard) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cnemidophorus
  • จิ้งแหลนหางแส้ พวกมันมีเฉพาะเพศเมียเท่านั้น สายพันธุ์ของพวกมันไม่มีเพศผู้แม้แต่ตัวเดียว (แล้วมันขยายพันธุ์อย่างไร?)
  • จิ้ง แหลนหางแส้ ใช้ขบวนการที่เรียกว่า การกำเนิดอันบริสุทธิ์(Parthenogenesis ซึ่งมาจากภาพกรีซ 2 คำคือ παρθένος parthenos, "virgin", + γένεσις genesis, "birth") ซึ่งการขยาพันธุ์ในลักษณะนี้จะพบได้ใน ผึ้ง และตัวไรต้นไม้ แต่ไม่มีการพบการขยายพันธุ์ในลักษณะนี้กับสัตว์มีกระดูกสันหลัง(vertebrates)
  • โดยตัวเมียสามารถผลิตไข่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ สเปริ์ม จากตัวผู้ในการปฎิสนธิ
  • ด้วย การขยายพันธุ์แบบนี้ ทำให้ลูกจิ้งแหลนที่ถือกำเนิดขึ้นมาจะมียีน เหมือนตัวแม่ทุกประการ จึงเป็นเหมือนการทำสำเนาของจิ้งแหลนตัวแม่ออกมาทีเดียว
  • แต่จิ้งแหลนเหล่านี้ก็ยังคงมีเซ็กส์อยู่ แต่เป็นการมีเซ็กส์แบบหลอกๆ ระหว่างตัวเมียด้วยกัน ด้วยการเล้าโลมกอดรัดกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการผลิตไข่ และตกไข่
  • นัก วิทยาศาสตร์ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับพวกมัน ว่าพวกมันสามารถปรับตัว หรือ วิวัฒนาการตัวเองให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรในเมื่อพวกมันไม่มีการ เปลี่ยนแปลงพันธุ์กรรมเลย
  • ส่วนกุญแจไขปริศนานี้อาจจะอยู่ที่พวกมัน ยังสามารถผสมพันธุ์กับจิ้งแหลนเพศผู้บางสายพันธุ์ได้ ซึ่งในบางครั้งทำให้เกิดลูกจิ้งแหลนที่มี โคโมโซมแบบ 3 คู่(triploid) ถ้าเป็นการถือกำเนิดแบบบริสุทธิ์นั้นจะเกิด โคโมโซมแบบ 2 คู่
ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Cnemidophorus


โฆษณาสุดเจ๋ง ที่จะติดตาคุณแม้ยาม หลับตา (BMW advert 'burns' logo on eyelids)

สุดยอดไอเดีย โฆษณา จาก BMW

เป็น ที่รู้กันอยู่ว่าค่าโฆษณานั้นแพงระยับ คงไม่แปลกว่าเหล่าเจ้าของโฆษณาจะเสียดายค่าโฆษณา พวกเขา และคงเสียดายแม้เสี้ยววินาทีที่เรากระพริบตาจึงมีการนำเสนอ โฆษณา ที่แม้แต่เวลากระพริบตาเราก็ยังคงเห็นมัน
รายละเอียดเกี่ยวกับ โฆษณานี้

  • มันเป็นโฆษณาของ BMW ที่นำเสนอผ่านแชมป์มอเตอร์ไซค์ นามว่า Ruben Xaus โดยภาพยนต์โฆษณานี้ถูกสร้างมาในโทนขวาดำ
  • สิ่งที่แปลกใหม่ที่สุดของ ภาพยนต์โฆษณาชุดนี้คือ เมื่อเราหลับตาลงจะมองเห็น โลโก้ BMW ลอยอยู่ท่ามกลางความมืด เสมือนมันถูกพิมพ์ไว้ด้านในเปลือกตาของเรา การนำเสนอโฆษณาในรูปแบบนี้มีชื่อเรียกว่า Flash Projection
  • การ ที่เราเห็นโกโก้ BMW ตอนหลับตานั้นใช้หลักการเดียวกับตอนที่เราแหงนมองดวงอาทิตย์ แล้วเราหลับตาลงเราก็ยังคงมองเห็นจุดกลมสว่างอยู่ ทั้งที่หลับตาแล้ว
  • แต่ การจะสร้างโฆษณาในลักษณะนี้ต้องมีอุปกรณ์พิเศษเข้าช่วย โดย ผู้ชมจะนั่งอยู่หน้าจอฉายภาพยนตร์ ด้านหลังจอจะมีแผ่นกระดาษแข็งที่ฉลุลายเป็นโลโก้ BMW โดยหลังกระดาษแข็งฉลุลายจะเป็นไฟแฟลชกำลังสูง ที่จะยิ่งแสงจ้าออกมาในโอกาสที่เหมาะสมกับโฆษณา
  • ภาย ในภาพยนต์โฆษณานี้จะเป็นฉากที่ Ruben Xaus กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์ และจะมีจังหวะหนึ่งที่จะมีแสงไฟจากหน้ารถสาดเข้าตาเรา(จังหวะนี้ไฟแฟลชกำลัง สูงที่อยู่ด้านหลังจะยิง แฟลช ออกมาแสงที่จ้ามากจะทำให้เรากระพริบโดยไม่รู้ตัว และทำให้เราพบโลโก้ BMW ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ )
  • โฆษณา นี้เจ๋ง ไม่เจ๋ง ผมไม่วิจารณ์แล้วกัน แต่ตั้งแต่มีการ Post โฆษณานี้ขึ้น YouTube ในวันที่ 4/11/2553 และในวันที่ 23/12/53 มีคนเข้าไปดูแล้วกว่า 7 แสนครั้ง
ภาพจำลองการจัดวางอุปกรณ์เพื่อนำเสนอโฆษณาในรูปแบบ Flash Projection

กระดาษแข็งที่ฉลุเป็น โลโก้รถ BMW
 
 
 
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1340248/BMW-burns-logo-cinema-goers-eyelids-shock-new-advert.html


หอยม่วง (violet sea snail)

หอยม่วง

ถ้า กล่าวถึง "หอยม่วง" สำหรับผมคงนึกถึงอยู่ 2 สิ่งคือ ช่อง NBT และเรื่องเล่าลามก ของ 2 สามี ภรรยา ที่ต่างงัดหลักฐานขึ้นมาฟ้องร้องซึ่งกัน และหลักฐานเด็ดก็คือ หอยม่วง แต่วันนี้ ผม มี หอยทากทะเลม่วง มาฝากรับรองว่าแปลกประหลาดทีเดียวครับ


รายละเอียดเกี่ยวกับ หอกทากทะเลม่วง


  • โดยมากจะพบเห็น หอยทากทะเลม่วง เฉพาะเปลือกที่ลอยมาติดชายหาด จากการถูกคลื่นซัดขึ้นมา
  • พวก มัน แปลกกว่าหอยทากทั่วไปที่จะคลานอยู่ตามพื้นดิน พื้นทะเล แต่ สำหรับ หอยทากทะเลม่วงนั้นพวกมัน จะอาศัยอยู่บนผิวน้ำ กินอาหารบนผิวน้ำ
  • การ ที่ หอยทากทะเลม่วง สามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้นั้นเกิดจาก การที่พวกมันสร้าง เมือกที่มีลักษณะเป็นฟองอากาศ ออกมาเป็นพวงยาว ฟองอากาศนี้แข็งคล้ายพลาสติก ทำหน้าที่เสมือนเป็นห่วงยางของ เหล่า หอยทากทะเลม่วง
  • หอยทากทะเลม่วง กิน แมนออฟวอร์(Bluebottle Physalia คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ลอยอยู่บนผิวน้ำ) และ สัตว์จำพวก ไดนาเรีย(Cnidarians เป็นสัตว์ในกลุ่ม แมงกะพรุน ไฮดรา ดอกไม้ทะเล) เป็นอาหาร
  • หอยทากทะเลม่วง เป็น ตัวอย่างที่ดีของสัตว์ที่ใช้กลยุทรที่เรียกว่า countershading คือ เปลือกของมันด้านที่ลอยอยู่บนผิวน้ำจะมีสีเข้ม ส่วนเปลือกด้านที่จมอยู่ใต้น้ำจะมีสีอ่อน เพื่อเป็นการช่วยในการพรางตัว จากการโจมตีตั้งจากทั้งเบื้องบน และเบื้องล่าง
  • หลายคนอาจจะสงสัยว่า เปลือกสี ทรูโทน มีประโยชน์อย่างไร กล่าวคือเมื่อเหล่านกทะเลมองลงมายังทะเลเบื้องล่างจะเห็น ทะเลเป็นสีน้ำเงินเข้ม เปลือกสีเข้มมีประโยชน์ตรงนี้ คือ ทำให้ทากทะเลกลมกลืนไปกับพื้นน้ำ ทำให้นกทะเลมองไม่เห็น
  • ในทางตรง กันข้ามหากปลานักล่ามองขึ้นมายังผิวน้ำ แสงแดดจะทำให้มองเห็นผิวน้ำเป็นสีขาวโพรน เปลือกสีอ่อนจะมีประโยชน์ตรงนี้ คือ ทำให้ปลานักล่ามองไม่เห็นตัว หอยทากทะเลม่วง
ภาพหอยทากทะเลม่วง กำลัง เขมือบ แมนออฟวอร์



ข้อมูลอ้างอิง
http://www.seaslugforum.net/find/janthina
http://www.thefeaturedcreature.com/2010/08/set-sail-with-violet-sea-snail.html
http://www.seaslugforum.net/find/janthina


วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล ( Longest comet tail )

ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล
ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล ( Longest comet tail )

Longest comet tail ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล เท่าที่มนุษย์มีการค้นพบในปัจจุับัน หางนั้นยาวขนาดไหนหรือ ก็ประมาณ 4 เท่าของระยะทางจากโลก ถึง ดวงอาทิตย์

รายละเอียดเกี่ยวกับ ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล

  • ดาวหางดวงนี้มีชื่อว่า ดวงหาง Hyakutake
  • ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 1996
  • ค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ชื่อว่า Yuji Hyakutake
  • โดยมันผ่านเข้ามาไกลโลกเมื่อเดือน มีนาคม 1996 สามารถมองเห็นได้เกือบทุกแห่งในโลก มันส่องแสงสว่างไสวอย่างมาก
  • ดาวหางดวงนี้จะโคจร เข้ามาในระบบสุริยะจักรวาลอีกครั้งต้องใช้เวลาประมาณ 17,000 ปี
  • ดาวหางดวงนี้มีหางยาว 500 ล้านกิโลกเมตร จึง เป็นดาวหาง ที่ หางยาวที่สุดเท่าที่มนุษย์มีการค้นพบในปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิง ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล ( Longest comet tail )

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Comet_Hyakutake
  • http://news.bbc.co.uk/2/hi/science/nature/702575.stm


การทดลอง ทางวิทยาศาสตร์ ในสภาพเสมือนไร้แรงดึงดูด (Microgravity)

การทดลอง ทางวิทยาศาสตร์ ในสภาพเสมือนไร้แรงดึงดูด

Microgravity คือ สภาพที่แรงดึงดูดมีค่าน้อยมาก หรือในสภาพที่แรงดึงดูดไม่มีผลต่อวัตถุ การที่จะเกิดสภาพเสมือนไร้แรงดึงดูด จะเกิดได้จาก 3 สาเหตุ
  1. เมื่อออกเราออกห่างจากแห่งแรงดึงดูด ตัวอย่าง มนุษย์อวกาศอยู่นอกโลก แห่งแรงดึงดูดคือโลก
  2. เมื่อตกลงจากที่สูงวัตถุจะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก
  3. เมื่อวัตถุใดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วกว่า 11.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัตถุนั้นจะเร็วเพียงพอที่จะหลุดจากแรงดึงดูดของโลก หลุดลอยสู่อวกาศ
เมื่ออยู่ในสภาพ Microgravity จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เปลว เทียน ที่อยู่ในสภาพ Microgravity จะมีขนาด รูปร่าง อุณหภูมิ และโครงสร้างของเปลวเทียน แตกต่างจากเมื่อเผาไหม้บนพื้นโลกโดยสิ้นเชิง ดังต่อไปนี้
  • รูปทรง เปลวเทียนจะมีลักษณะคล้ายทรงกลม มีความกว้างออกด้านข้างมากกว่าเปลวเทียนปกติ เนื่องจากในสภาพ Microgravity เปลวไฟจะเกิดจากการเผาไหม้ที่ไส้เทียนเพียงอย่างเดียว แต่ในสภาพปกติการเผาไหม้จะมีไอระเหยจะไขเทียนที่เบากว่าอากาศ ที่ลอยตัวขึ้นช่วยเสริมเปลวไฟให้มีรูปร่งเรียวยาว wowboom
  • อุณหภูมิ เปลวไฟจะมีอุณภูมิต่ำกว่า เปลวไฟปกติเนื่องจาก อัตราการการเผาไหม้ของน้ำตาเทียนจะเกิดขึ้นต่ำกว่าปกติ

(ซ้าย)เปลวเทียนในสภาพปกติบนพื้นโลก (ขวา)เปลวเทียนในสภาพ Microgravity

(ซ้าย)น้ำ ที่ต้มเดือดในสภาพแรงดึงดูดปกติ น้ำที่ถึงจุดเดือดจะกลายเป็นไอลอยตัวขึ้นด้านบน เนื่องจากไอน้ำมีน้ำหนักเบาจึงลอยขึ้นด้านบน และน้ำที่หนักกว่าจะจมตัวลงด้านล่าง
(ขวา)น้ำ ที่ต้มเดือดในสภาพ Microgravity เมื่อน้ำกลายเป็นไอ จะสะสมอยู่ด้านล่างเนื่องจากไม่มีแรงดึงดูดจึงไม่มีการไหล เนื่องจากความต่างของน้ำหนักระหว่าง น้ำ กับ ไอน้ำ


ภาพการก่อตัวของผลึกในสภาพ Microgravity ผลึกจะก่อตัวใหญ่กว่าบนพื้นโลกถึง 30 เท่า


การทดลองสภาพไร้น้ำหนัก ขณะยังอยู่ในโลก โดยใช้เครื่องบิน Airbus บินในวิถีโปรเจ็คไตล์ เมื่อขึ้มถึงจุดสุดยอด แล้วทิ้งหักหัวลง จะทำให้เกิดสภาพ Microgravity


การทดลอง เกี่ยวกับน้ำเมื่ออยู่ในสภาพ Microgravity ทำให้แรงดันบภายนอกจากทุกทิศทางเท่ากัน เมื่อประกอบกับแรงดันน้ำทุกทิศทางเท่ากัน และแรงตึงผิวของน้ำแรงช่วยให้น้ำสามารถคงรูปอยู่ในรูปทรงกลม

ข้อมูลอ้างอิง เปลวเทียนในอวกาศ ในสภาพ Microgravity

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Phenomenon
  • http://science.howstuffworks.com/space-station5.htm
  • http://science.nasa.gov/headlines/y2000/ast12may_1.htm
  • http://www.busoc.be/en/research/microgravity/fluidphysics.htm อ้างอิงในส่วนต้มน้ำในอวกาศ
  • http://www.mainsgate.com/spacebio/Sptopics/biotech_intro.html อ้างอิงในส่วนการเกิดคริสตัล


สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล (Coldest place in the Universe)

สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล
สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล

Boomerang Nebula คือ สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล มันมีอุณหภูมิสูงกว่า อุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์เพียง 1 องศาเซลเซียล เท่านั้น

รายละเอียดเกี่ยวกับ บูมเมอแรงเนบิวล่า

  • บูมเมอแรงเนบิวล่า เป็นเนบิวล่าเกิดใหม่ แบบที่เรียกว่า เนบิวล่าคล้ายดาวเคราะห์ (planetary nebula )
  • บูมเมอแรงเนบิวล่า มีระยะทางห่างจากโลก 5,000 ปีแสง
  • มีลักษณะเป็นกลุ่มฝุ่น ก๊าซ สีสุกสว่าง จากดวงดาวตรงกลางที่ปลดปล่อยก็าซออกในช่วงสุดท้ายของดวงดาว
  • มันถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1995 โดยกล้องโทรทรรศน์ขนาด 15 เมตร ของสวีเดน ชื่อว่า ESO Submillimetre Telescope ในประเทศชิลี
  • ค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ 2 คนชื่อว่า Sahai และ Nyman โดยทั้งคู่ได้เปิดเผยข้อค้นพบที่น่าตื่นตลึงว่า บูมเมอแรงเนบิวล่า เป็น สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล ด้วยอุณหภูมิเีพียง -272°C
อุณหภูมิ ศูนย์สัมบูรณ์ คือ อุณหภูมิต่ำที่สุดทางทฤษฏีที่เป็นไปได้ ณ อุณหภูมินี้ อะตอมของสารต่าง ๆ จะไม่มีการเคลื่อนไหว โดยอุณหภูมิดังกล่าวอยู่ที่ 0 K(เควิน) หรือ -273.15 C(เซลเซียส)
 
 
ข้อมูลอ้างอิง สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล (Coldest place in the Universe)

  • http://www.esa.int/esaSC/SEMQM69YFDD_extreme_0.html


ดวงดาวในจักรวาล ( Star in space )

ดวงดาวในจักรวาล
ดวงดาวในจักรวาล

Star in space ดวงดาวในจักรวาล นั้นมีกี่ดวง นั้นคงเป็นคำถามที่หลายๆคน คงเคยตั้งคำถามนี้ในใจ หรือ บางครั้งก็เอ่ยถามคนข้าง แต่คำตอบนั้นยากนักที่จะมีใครสามารถตอบได้ อย่างชัดเจนแม้แต่ นักดาราศาสตร์ที่เก่งที่สุดในองค์การนาซ่า(NASA) ก็เพียงแต่ได้ประมาณการณ์ไว้เท่านั้น

เรามาดูตัวเลขประมาณการณ์นั้นกันดีกว่า ว่ามันเท่าไร ?

การ ที่จะรู้จำนวนดวงดาวในจักรวาลนั้น เป็นคำถามที่ง่ายในการตั้ง แต่ยากยิ่งในการตอบ เนื่องจากมนุษย์ยังไม่ค้นพบขอบของจักรวาล และดวงดาวก็ กระจัดกระจายอยู่ในจักรวาล อย่างไม่มีรูปแบบจึง ยากที่จะทราบจำนวนที่แน่นอน ของดวงดาว แต่ถ้าจะใช้ความรู้ที่มนุษย์มีอยู่ ตอบ ก็จะได้คำตอบดังต่อไปนี้
  • กรณี มองด้วยตาเปล่า หากเราไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ห่างไกล ในคืนฟ้าเปิด มองขึ้นไปบนท้องฟ้า จำนวนดวงดาวบนท้องฟ้าที่สามารถมองเห็น จะมีจำนวนซัก พันกว่าดวง
  • กรณีใช้กล้องโทรทรรศน์สมัครเล่น (Amateur Telescope) คุณก็สามารถมองเห็นดวงดาวได้เพิ่มขึ้นถึง ล้าน ดวง ทีเดียว
  • เพียงแค่ในแกแล็คซี่ทางช้างเผือกของเรานี้ ก็ประมาณกันว่ามีดวงดาว ถึง 1,000,000,000,000 ดวง
  • นักดาราศาสตร์ประมาณว่า ในจักรวาลมีแกแล็คซี่ อยู่ประมาณ 1,000,000,000,000 แกแล็คซี่
  • ฉะนั้น จำนวนดวงดาวในจักรวาล โดยประมาณ (เท่าที่มนุษย์มีองค์ความรู้ในปัจจุบัน) คือ 1,000,000,000,000,000,000,000,000 ดวง ( หนึ่งล้านล้านล้านล้าน ดวง )
หาก ถามว่านักดาราศาสตร์ นำตัวเลขนี้มาจากไหน ใครเป็นคนนั่งนับ ตอบว่าไม่มี ตัวเลขนี้ได้มาจากการคำนวณ ที่มาก็คล้ายกับหากจะถามว่า ในหาดชายมีทรายกี่เม็ด ก็คงคำนวณโดย นับจำนวนเม็ดทรายในปริมาตรเล็กๆ แล้วคูณด้วยปริมาตรของทั้งหาด

ข้อมูลอ้างอิง ดวงดาวในจักรวาล ( Star in space )

  • http://www.esa.int/esaSC/SEM75BS1VED_extreme_0.html


แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน


Pioneer plaque แผ่นจารึก บนยานไพโอเนียร์ คือแผ่นโลหะที่ติดอยู่ข้างยานสำรวจอวกาศ ที่มนุษย์พยายามจะสื่อสารกับ สิ่งมีชีวิตนอกโลก (ซึ่งทรงภูมิปัญญา) เคยสงสัยกันหรือเปล่า ว่า นาซ่าต้องการจะสื่ออะไร

รายละเอียดเกี่ยวกับ Pioneer plaque


  • แผ่นจารึกนี้ทำจาก โลหะอลูมิเนียม เคลื่อบผิวด้วยทองคำ
  • แผ่นจารึกมีขนาด 22.9 x 19.2 x 0.127 เซ็นติเมตร ( กว้าง x สูง x หนา )
  • รูปภาพบนแผ่นใช้การเซาะเป็นร่องลึก 0.0381 เซ็นติเมตร
  • แผ่นจารึกถูกติดไว้ใน บริเวณฐานยึดเสาอากาศของยานไพโอเนียร์ ในตำแหน่งที่ได้รับการป้องกันจากการกัดกร่อน โดย ฝุ่นสุริยะ
  • แผ่นจารึกนี้ถูกติดตั้งไว้ในยานสำรวจอวกาศ ไพโอเนียร์ 10 และ 11
แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
ตำแหน่งที่ทำการ ติดตั้งแผ่นจารึก บนยานไพโอเนียร์ 10 และ 11
ความหมายของ ภาพวงกลม 2 วง มีขีดประหลาด มากมาย

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • วงกลมสองวงนี้ คือ สัญลักษณ์ของธาตุไฮโดรเจน ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน
  • ซึ่งวงกลมแต่ละวง ต้องการสื่อว่าไฮโดรเจนมีโมเลกุล 2 อะตอม
  • ขีดด้านบนแทนสัญลักษณ์เลขฐานสอง แทนตัวเลข 1 ซึ่งขีดนั้นต้องการจะสื่อว่าธาตุไฮโดรเจนมีอิเล็กตรอนชั้นนอกสุด 1 ตัว ในแต่ละโมเลกุล
  • การ ที่ขีดด้านบนวงกลม หันสลับทิศกัน นั้นต้องการจะสื่อว่า อิเล็กตรอนม้วนไปในทิศทางตรงกันข้ามกันซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนวน ทำให้เกิดความยาวคลื่น(Wavelength) เท่ากับ 21 เซ็นติเมตร หรือ ในหน่วยเวลาที่ความถี่เท่ากับ 1420 MHz
  • ซึ่งหน่วยความยาวคลื่นนี้จะนำไปประยุกต์ใช้อ่านสัญลักษณ์ อื่นที่เหลือ
  • ทำไมจึงเลือกใช้ธาตุ ไฮโดรเจน เพราะ ไฮโดรเจนเป็นธาตุที่สามารถพบได้ในจักรวาล ได้มากที่สุด
ความหมายของ ภาพชาย หญิง ในสภาพเปลือย

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • ผู้ชาย ยกมือขวา แยกนิ้วโป้งออก ซึ่งต้องการสื่อว่า สามารถเคลื่อนไหว และใช้มือได้อย่างคล่องแคล่ว และยังบอกเป็นนัย ถึงการทักทาย ด้วยไมตรีจิต
  • การที่เปลือยกาย ต้องการสื่อถึงความแตกต่างระหว่างเพศ ว่ามี 2 เพศ คือ ชาย และ หญิง
  • สังเกต ทางด้านซ้ายของฝ่าย หญิง จะมีสัญลักษณ์ ที่เป็นตัวเลขฐานสอง แทนตัวเลข 8 คูณด้วยความยาวคลื่นของไฮรโดเจน มีค่าเท่ากับ 8 x 21 = 168 คือความสูงเ้ฉลี่ยของมนุษย์ผู้หญิง
  • ส่วนเส้นร่างๆ เส้นโค้ง และรูปสามเหลี่ยมด้านหลังแทน สัญลักษณ์ของยาน ไพโอเนียร์ เพื่อเป็นการเปรียญเทียบความสูงของมนุษย์ กับยานไพโอเนียร์
ความหมายของภาพ ขีด 15 ขีด ที่พุ่งกระจายออกจากกัน เป็น แฉก

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • เส้นตรงทั้ง 15 เส้นพุ่งออกมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน มี 14 เส้น กำกับไว้ด้วย สัญลักษณ์เลขฐานสอง
  • เส้น ทั้ง 14 เส้นแทนระยะทางจากพัลซาร์(Pulsars) ถึงดวงอาทิตย์ของเรา ( Pulsars คือ ดาวนิวตรอนที่ส่งคลื่นแม่เหล็กอำนาจสูงออกมา เป็นลำแสงหมุนวน ซึ่งสามารถตรวจจับได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ จึงสามารถใช้ระบุตำแหน่งในจักรวาลได้ )
  • ที่ปลายของแต่ละเส้น คือ การระบุแกน 3 มิติในจักรวาล ว่าจากพัลซาร์ แต่ละแห่ง มุ่งหน้ามาทางทิศทางใดจะมาถึงดวงอาทิตย์ของเรา
ความหมายของภาพ ดวงกลม 10 ดวง และลูกศรจากวงกลม อันที่ 4 ชี้ไปยังวัตถุประหลาด

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • ภาพนี้คือสัญลักษณ์แทน ระบบสุริยะจักรวาล ของเรา
  • สัญลักษณ์เลขฐานสอง เหนือวงกลม แทนระยะทางจากดวงอาทิตย์ ถึง ดาวแต่ละดวง ( หน่วย เท่ากับระยะ 1/10 ของวงโคจรของดาวพุธ)
  • วงกลมใหญ่สุดทางซ้าย คือ ดวงอาทิตย์(Sun)
  • วงกลมอันที่ 2 คือ ดาวพุธ(Mercury)
  • วงกลมอันที่ 3 คือ ดาวศุกร์(Venus)
  • วงกลมอันที่ 4 คือ โลก(Earth) และเส้นลูกศร คือเส้นทางเดินทางของยานไพโอเนียร์ ปลายลูกศรคือ สัญลักษณ์ของยานไพโอเนียร์
  • วงกลมอันที่ 5 คือ ดาวอังคาร(Mars)
  • วงกลมอันที่ 6 คือ ดาวพฤหัสบดี(Jupiter)
  • วงกลมอันที่ 7 คือ ดาวเสาร์(Saturn) สังเกตจะมีขีดตรงกลาง ก็คือ วงแหวนของดาวเสาร์
  • วงกลมอันที่ 8 คือ ดาวยูเรนัส( Uranus )
  • วงกลมอันที่ 9 คือ ดาวเนปจูน( Neptune )
  • วง กลมอันที่ 10 คือ ดาวพลูโต ( Pluto ) หลายคนยกมือทักท้วงว่าดาวพลูโต ถูกปลดจากระบบสุริยะจักรวาลไปแล้ว จากคำสั่งของ(IAU) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2006 จะเอามาลงในจารึกนี้ทำไม ก็ ตอนยานไพโอเนียร์ออกเดินทางจากโลก มันปี 1973 ดาวพลูโตมันยังไม่โดนเด้งฟ้าผ่า

ข้อมูลอ้างอิง แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Pioneer_plaque
  • http://sunflowercosmos.org/amazing_discovery/amazing_discovery_home/amazing_discovery_1.html
  • http://sunflowercosmos.org/ เว็บภาษาไทย มีเรื่องดาราศาสตร์ ในเชิงลึก แต่อ่านเข้าใจง่าย ใช้อ้างอิงในบทความนี้มากมาย


วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สถานที่ เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก ( World's Largest Gold Vault )

สถานที่ เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก
สถานที่ เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก (  World's Largest Gold Vault )

Federal Reserve Bank หรือ ที่รู้จักกันในชื่อสั้นๆว่า เฟด ( Fed ) คือ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และที่เฟคสาขานิวยอร์ค คือ สถานที่ เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก มากขนาดไหนหรือก็ 10% ของปริมาณทองคำสำรองของทั้งโลก

รายละเอียด เกี่ยวกับ ทองคำ และ เฟด สาขา นิวยอร์ค

  • เฟด สาขา นิวยอร์ค สร้างขึ้นในปี 1924
  • ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 33 ถนนลิเบอร์ที(Liberty) รัฐนิวยอร์ค(New York) ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ห้องมั่นคง( Strong room ) อยู่ลึกลงจากระดับถนน 24 เมตร ( ประมาณตึก 4 ชั้น ) นั่งอยู่บนชั้นหินแข็ง(Bedrock)
  • ห้องมั่นคงแห่งนี้เก็บเฉพาะทองคำเท่านั้น wowboom
  • รายงาน อย่างเป็นทางการในปี 1927 ปริมาณทองคำที่เก็บไว้ที่นี้มีมากถึง 10% ของปริมาณทองคำสำรองของทั้งโลก ส่วนปริมาณ ณ ปัจจุบัน ไม่เป็นที่เปิดเผย
  • แต่คาดว่าน่าจะมีปริมาณทองคำเก็บอยู่ประมาณ 5,000 ตัน มูลค่าประมาณ 160,000,000,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อเดือนมีนาคม 2008
  • ทองคำ ทั้งหมดไม่ใช่ของ เฟค แต่ เฟคเป็นเพียงผู้ดูแล ซึ่งทองคำเหล่านี้เป็นของ รัฐบาลของกว่า 48 ประเทศ ทองคำของธนาคารกลางแต่ละประเทศ และองค์กรนานาชาติต่างๆ
คลังภาพ ภายในคลังทองคำ


ปรตูหน้ามั่นคง ที่เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก
รูป ประตูห้องมั่นคง ก่อนที่จะเข้าสู่บริเวณที่เก็บทองคำ ทำจากเหล็กหนา 3 เมตร หนักกว่า 90 ตัน

สถานที่ เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก
รูป กำแพงทองคำที่เห็นนี้ ทองแต่ละก้อนหนักถึง 12.42 กิโลกรัม มูลค่าแต่ละก้อน 5.6 ล้านบาท (นับกันเองว่ากี่ก้อน และนี้เป็นเพียงส่วนน้อยนิค ที่ถูกเก็บรักษาไว้ ณ เฟค นิวยอร์ค )

ข้อมูลอ้างอิง สถานที่ เก็บทองคำ มากที่สุดในโลก (World's Largest Gold Vault )

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Federal_Reserve_Bank_of_New_York
  • http://ezinearticles.com/?The-Largest-Gold-Vault-in-the-World&id=2062982


ทองคำแท่ง หนักที่สุด ใหญ่ที่สุดในโลก ( Largest Gold Bar )

ทองคำแท่ง หนักที่สุด ใหญ่ที่สุดในโลก
จัดเรียงกึ่งกลาง

Gold Bar ทองคำแท่ง หากพูดถึงสิ่งนี้คงไม่มีใครไม่ต้องการ ยิ่งถ้าเป็นทองคำแท่ง ที่ ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยแล้ว แต่มันไม่ใช้ของที่จะขโมยกันง่ายๆ เนื่องจากมันหนักถึง 245 กิโลกรัม

รายละเอียดเกี่ยวกับ ทองคำแท่ง ใหญ่ที่สุดในโลก

  • ผู้ผลิตทองคำแท่งยักษ์นี้ คือ Mitsubishi Materials Corporation ของญี่ปุ่น
  • ทองคำแท่งนี้มีขนาด 45.5 x 22.5 x 17.9 เซ็นติเมตร ( ยาว x กว้าง x สูง )
  • ทองคำแท่งมีน้ำหนัก 250 กิโลกรัม ( ก็หนักประมาณ 16,399 บาท )
  • ทองคำแท่งนี้ถูกเก็บรักษาอยู่ที่ Toi museum ประเทศญี่ปุ่น
  • ทองคำแท่งนี้มีมูลค่า 3.7 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อวันหล่อทองแท่งนี้

ข้อมูลอ้างอิง ทองคำแท่ง หนักที่สุด ใหญ่ที่สุดในโลก ( Largest Gold Bar )

  • http://thelongestlistofthelongeststuffatthelongestdomainnameatlonglast.com/largest34.html
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Gold


ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney

ต้นไม้แห่งชีวิต
ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney

The Tree of Life (Disney) ต้นไม้ต้นนี้ เป็นอีกหนึ่งต้นไม้ปริศนา ที่ถูกเผยแพร่ไปใน Forward mail มันคือต้นไม้อะไรถึงมีเปลือกเป็นรูป สรรสัตว์ต่าง ปรากฏอยู่ มันมีอยู่จริง หรือเป็นรูปจาก Photo shop


รายละเอียด เกี่ยวกับต้นไม้แห่งชีวิต

  • ต้นไม้ต้นนี้มีอยู่จริงในโลกนี้ มันไม่ใช่รูปที่ตกแต่งขึ้น แต่มันไม่ใช่ต้นไม้จริงๆ แต่มันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
  • ต้นไม้ต้นนี้เป็นสัญลักษณ์ของ สวนสนุกดีสนีย์ ในส่วน อาณาจักรสัตว์ (Disney's Animal Kingdom) ตั้งแต่ปี 1998
  • ต้นไม้แห่งชีวิตถูกสร้างโดยใช้โครงของ แท่นขุดเจาะน้ำมัน(Oil platform) เปลือกภายนอกถูกสร้างด้วย Kynar(เป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง)
  • เปลือกของต้นไม้แห่งชีวิต มีประติมากรรมรูปสัตว์ ต่างถึง 325 ตัว
  • ในเมื่อเป็น ต้นไม้ของดีสนีย์ ก็ต้องมีสัญลักษณ์ มิกกี้เมาส์(hidden Mickey) ซ่อนอยู่ด้วย
  • ภายในต้นไม้่แห่งชีวิต เป็นโรงภาพยนต์ ฉายภาพยนต์สามมิติเรื่อง It's Tough to be a Bug!
  • ต้นไม้ต้นนี้มีลักษณะคล้ายต้น Rafiki ใน ภาพยนต์เรื่อง ไลอ้อนคิง(The Lion King) แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก
คลังรูปภาพ ต้นไม้แห่งชีวิต

ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney
บริเวณลำต้นของ ต้นไม้แห่งชีวิต จะเต็มไปด้วยรูปของ สิงห์สาราสัตว์ มากมาย

ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney
เมื่อซูมเข้าไปไกล้ๆ ก็ยิ่งเห็นรายละเอียดมากมายยิ่งขึ้น

ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney
รูปนี้สิงโตกำลังวิ่งไล่เหยื่อ

ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney
บริเวณนี้ก็จะเห็นลิง ซ่อนตัวอยู่เห็นแต่หน้าโผล่ออกมา

ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney
บริเวณนี้ก็จะมีนกฮูก แมลงป่อง และลิงตัวเล็กๆ



ข้อมูลออ้่างอิง ต้นไม้แห่งชีวิต (The Tree of Life) Disney

  • http://en.wikipedia.org/wiki/The_Tree_of_Life_%28Disney%29
  • http://www.worldisround.com/articles/49398/photo32.html


ต้นไม้แปลก ต้นไม้สีรุ้ง ( Rainbow Tree )

ต้นไม้แปลก ต้นไม้สีรุ้ง

Rainbow Eucalyptus ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง เมื่อเห็นต้นไม้ต้นนี้หลายคนคงสงสัยว่า ใครหนอช่างมือบอน เอาสีมาป้ายตามต้นไม้ซะเละไปหมด แต่ถ้าบอกว่าต้นไม้นี้ไม่ได้ถูกสีป้าย แต่มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

รายละเอียด เกี่ยวกับ ต้นไำม้สีรุ้ง

  • ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง สามารถพบได้ที่ นิวกินี(New Guinea) , นิวบริเทน(New Britain) , ฟิลิปปินส์(Philippines)
  • ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง เป็น ต้นยูคาลิปตัสสายพันธุ์หนึ่ง ที่สามารถขึ้นได้ในเขตซีกโลกเหนือ ( Northern Hemisphere )
  • ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง ก็ เหมือนๆต้นยูคาลิปตัสทั่วไปที่สามารถนำมาผลิตกระดาษ ได้
  • ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง เป็นต้นไม้่ขนาดใหญ่สามารถสูงได้ถึง 70 เมตร
  • ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง เมื่อเริ่มแรกลำต้นก็จะมีสีเขียว
  • สาเหตุ ที่ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้ง มีลำต้นหลากหลายสี นั้นเนื่องจาก ต้นยูคาลิปตัสมีเปลือกหลายชั้น โดยชั้นนอกสุดมีสีเขียว ชั้นต่อๆไปเป็นสีน้ำเงิน , สีส้ม , สีม่วง , สีม่วงเข้มแกมน้ำตาล เมื่อเปลือกลอกออกจะเผยเปลือกสีสันต่างๆ ขึ้นมา
คลังรูปภาพ ต้นไม้สีรุ้ง ( Rainbow Tree )


ซูมเข้ามาดูไกล้จะเห็นเปลือกของต้นยูคาลิปตัส หลากหลายสีสัน


นับว่าเป็นต้นไม้ที่แปลกตามากสำหรับสีลำต้น


ต้นไม้แปลก ต้นไม้่สีรุ้ง


ข้อมูลอ้างอิง ต้นไม้ สีรุ้ง ( Rainbow Tree )

  • http://www.odditycentral.com/pics/rainbow-eucalyptus-natures-painted-tree.html